
การเลือกเนื้อผ้า เป็นสิ่งที่เราควรจะทดลองและทดสอบในการซื้อผ้ามาตัดเย็บ เพราะปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยคือ การหด และผิวสัมผัส ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการผ้า เบอร์ 20 แต่เมื่อสั่งทอพิเศษแล้ว เนื้อผ้าที่ได้มาอาจจะนุ่ม หรือ ใส่แล้วเบาสบายใกล้เคียงกับ เบอร์ 32 ก็ได้ (ปัจจัยนี้ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบต่างๆ)
เนื้อผ้ามีลักษณะโครงสร้าง แตกต่างไปกันตามโรงงาน แต่ละโรงงาน โครงสร้างของการทอ และเนื้อผ้าก็จะไม่เหมือนกัน อาจเรียกได้ว่าเป็นลักษณะพิเศษของช่างในการตั้งฝีเข็ม และคุณภาพเส้นด้ายของโรงงานนั้นๆ
งานสกรีนเสื้อนั้นสามารถพิมพ์ ลงบนเนื้อผ้าได้หลายชนิด ผ้าที่นิยมมากที่สุดในการทำเสื้อยืดนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผ้า Cotton เป็นเนื้อผ้าส่วนใหญ่ ที่แบรน์เสื้อต่างๆ นั้นเลือกนำมาผลิตเสื้อ
ผ้าCotton แบ่งออกเป็นเลขเบอร์ใหญ่ ๆ ได้ หลายเบอร์ คือ
- ผ้า Cotton เบอร์ 20 เนื้อผ้าที่ทอ ออกมาจะมีลักษณะ หยาบ แข็ง แต่ทนทานซึ่งเนื้อผ้าชนิดนนี้ คนญี่ปุ่นชอบสวมใส่เพราะ ความต้องการใช้งานที่ทนทาน รวมถึงให้ความอบอุ่นต่อสภาพอากาศหนาว เป็นที่นิยมในกลุ่มเสื้อวินเทจ และผู้ชื่นชอบเสื้อวง ยุค 80’s และยุค 90’s
- Cotton เบอร์20-Comb เส้นด้ายจะมีความสะอาด และเนื้อละเอียดมากกว่า ข้อ1 แต่จะมีเนื้อสัมผัสที่ดีกว่าและ น้ำหนักของเนื้อผ้าจะบางกว่าเล็กน้อย เนื่องจากผ้ามีความละเอียดมากกว่า
- ผ้า Cotton เบอร์ 25 ผ้าจะบางขึ้นมาและสวมใส่สบาย มากกว่าเบอร์ 20 สำหรับผู้ที่ชอบความหนาและต้องการใส่สบายขึ้น เนื้อผ้าตัวนี้ให้ความคงทนและใส่สบายมากกว่า 2 ตัวแรกที่กล่าวในข้างต้น เป็นที่นิยมในหมู่เสื้อวินเทจ ( Vintage T-shirt)
- Cotton เบอร์ 30 เนื้อผ้าจะใกล้เคียงกับผ้าเบอร์ 32 แต่มีความหนากว่า
- ผ้า Cotton เบอร์ 32 แบ่งแยกย่อยออกมาได้อีก 2 ประเภทนั้นคือ Semi 32 และ Comb 32 ผ้าเบอร์นี้เป็นที่นิยมในแถบยุโรป อเมริกา รวมถึงประเทศไทย เพราะการสวมใส่ที่เบาสบาย เนื้อผ้าบางเบา และระบายความร้อนได้ดี
- Cotton เบอร์ 40 เป็นเนื้อผ้าที่ใส่เบาและสบายกว่าเบอร์ 32 เพราะระบายอากาศค่อนข้างดีที่สุด แต่ราคาสูง การขยายของเนื้อผ้าสูง (ผ้าย้วย) ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่นการซักมือ เป็นต้น
- ผ้าทอ 2 หน้า เนื้อผ้าตัวนี้ จะได้ความหนาของผ้า และน้ำหนักของผ้ามากที่สุด ในเนื้อผ้าหรือเส้นด้ายที่กล่าวมาทั้งหมด มีความหนานุ่ม เหมาะกับเสื้อเด็ก และเสื้อทรงโอเวอร์ไซส์ (oversize) เพราะน้ำหนักผ้าดีเมื่อตัดเข้าทรงแล้วผ้าทิ้งตัวลงสวย

โดยส่วนใหญ่คนทั่วไปมีความเข้าใจว่าเสื้อจะไม่หด แต่ในความเป็นจริงแล้วเสื้อยืดทุกตัวนั้นหด ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ การหด (shrink grade) ของผ้าที่โรงงานนำมาทอแต่ละชนิด หรือบางครั้งเมื่อผ่านการซักอาจจะหดหรือหดน้อยมาก แต่ผ้าอย่างหลังนั้นมีราคาค่อนข้างสูง การย้อมสีผ้าก็เช่นเดียวกัน สังเกตุได้ง่ายๆว่าเวลาเราซักผ้าหรือแช่ผ้า น้ำที่ซักมีสีของเนื้อผ้า ปนออกมาด้วยหรือไม่ ผ้าที่ผ่านการย้อมโดยใช้สีและน้ำยาที่มีคุณภาพ เมื่อผ่านการซักสีจะไม่ตก และจะคงเนื้อสีของผ้าตลอดการใช้งาน
สิ่งที่สำคัญของ การเลือกเนื้อผ้า ก็คือผู้ซื้อควรเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่หด ไม่ยืด ไม่ย้วย สีไม่ตก หรือเลือกเนื้อผ้าให้ได้ตามเกณฑ์ที่ต้องการหรือตามกำลังซื้อ ขึ้นอยู่กับการทอผ้า และย้อมผ้าเป็นหลัก
เนื้อผ้าของเสื้อยืด ยังมีอีกมากมายหลายประเภท ติดต่อสอบถามทางโรงงานสกรีนได้นะครับทางเรามีเสื้อยืดเปล่าจำหน่าย
บทความ : การเลือกเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับงานสกรีน
บทความ : สีประเภทแบบไหนควรใช้บนเนื้อผ้าแต่ละชนิด
ทางเราให้คำปรึกษา ทางเราให้คำปรึกษา ในเรื่องของเนื้อผ้า การทอ การสกรีนเสื้อ การทำแบบ และชนิดสีต่างๆในการพิมพ์เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดครับ ทางโรงงานมีคลาสสอน สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานสกรีน เพื่อไปทำเป็นอาชีพด้วยนะครับ สอบถามและติดต่อเพิ่มเติมตามข้อมูลด้านล่างได้เลยครับ